กรุงเทพฯ: 31 พฤษภาคม 2553: นายเจ.ที. หวาง ประธานบริษัทเอเซอร์ ได้รับเลือกให้ติดอันดับรายชื่อบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2553 ของนิตยสารไทม์ (TIME) พร้อมกล่าวถึงการเกียรติที่ได้รับในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นเครื่องยืนยันว่าทั่วโลกให้การยอมรับต่อเอเซอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเขาได้กล่าวขอบคุณนิตยสารไทม์ รวมถึงคณะกรรมการตัดสิน และประชาชนทั่วไปที่ร่วมโหวตให้คะแนน ทั้งนี้ นายหวางครองอันดับ 2 ในกลุ่มผู้บริหาร
นายเจ.ที. หวาง กล่าวว่า ในขณะที่เอเซอร์กำลังปฏิรูปโครงสร้างองค์กรตามแผนที่ประกาศไว้เมื่อปี 2543 โดยการได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เอเซอร์ ตามดุลยพินิจของ นายสแตน ฉี อดีตประธานบริษัท เอเซอร์ ซึ่งนับเป็นการเปิดโอกาสครั้งสำคัญ เพื่อให้ตนได้แสดงความสามารถในการบริหารองค์กรในระดับสากล และรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากกับโอกาสที่ได้รับ โดยในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจาก นายจิอานฟรังโก้ แลนซี่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในคณะผู้บริหาร รวมถึงซัพพลายเออร์และตัวแทนจำหน่ายซึ่งให้การสนับสนุนแก่บริษัทอย่างเต็มที่เช่นกัน ความร่วมมือของทุกๆ ฝ่ายช่วยให้เอเซอร์สามารถขยายกิจการให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่องจนกระทั่งได้รับการยอมรับจากนิตยสารไทม์
นายหวาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา คอมพิวเตอร์พีซีได้พัฒนาสู่ระบบเปิด และทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของไต้หวันสามารถสร้างระบบซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งความได้เปรียบนี้ช่วยให้ไต้หวันสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดและอิทธิพลได้อย่างกว้างขวาง ในขณะที่เอเซอร์ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เอเซอร์ "อยู่ถูกที่ ถูกเวลา" และกลายเป็นส่วนหนึ่งในพัฒนาการของอุตสาหกรรมพีซีระดับโลก ยิ่งไปกว่านั้นยังโชคดีอย่างมากที่ได้เป็นสักขีพยาน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลก
นายหวาง คาดหมายว่าอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของไต้หวันจะสดใส และเชื่อว่าตราบใดที่มีการตัดสินใจอย่างถูกต้องในช่วงเวลาสำคัญๆ ผู้บริหาร และบริษัทต่างๆ ของไต้หวันก็จะได้รับความเคารพ และการยอมรับเพิ่มมากขึ้นในเวทีโลกอย่างแน่นอน
สำหรับรายชื่อบุคคลผู้มีอิทธิพลสูงสุดในโลก 100 คน ของนิตยสารไทม์ หรือที่เรียกว่า TIME 100 จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 7 แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกย่องการดำเนินการอย่างจริงจัง การสร้างสรรค์นวัตกรรม และความสำเร็จของบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ซึ่งนายนิค สเตนเกล บรรณาธิการบริหารของไทม์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า "รายชื่อ TIME 100 ไม่ได้เป็นรายชื่อของบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก หากแต่เป็นรายชื่อของบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ใช้แนวคิด วิสัยทัศน์ และการดำเนินการ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเราและก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก"
ทั้งนี้ รายชื่อทั้งหมดและคำสดุดีที่เกี่ยวข้องนั้น มีอยู่ในนิตยสารไทม์ ฉบับวันที่ 10 พฤษภาคม 2553
ข้อมูลเกี่ยวกับเอเซอร์
นับแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2519 เอเซอร์มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดระหว่างคนและเทคโนโลยี ด้วยการเอาใจใส่กับการทำตลาดผลิตภัณฑ์ไอทีภายใต้แบรนด์เอเซอร์ในทุกประเทศ ปัจจุบันเอเซอร์เป็นผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์เป็นอันดับสองในระดับโลกทั้งในตลาดพีซีและโน้ตบุ๊ก ด้วยรูปแบบการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีผลกำไรและยั่งยืนเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเอเซอร์ ในขณะเดียวกันความสำเร็จของการควบรวมกิจการกับเกตเวย์และแพคการ์ด เบลล์ทำให้บริษัทสามารถเป็นบริษัทระดับโลก เอเซอร์มุ่งมั่นที่จะออกแบบและสร้างซัพพลายเชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่าย และเอเซอร์ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาว 2010 ที่แวนคูเวอร์ และการแข่งขันโอลิมปิค เกมส์ 2012 ณ กรุงลอนดอน เอเซอร์ กรุ๊ป มีพนักงาน 7,000 คนทั่วโลก และมีรายได้ในงบประมาณปี 2009 อยู่ที่ 17.9 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.acer-group.com
ผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2527 โดยบริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ปัจจุบันบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และได้รับรางวัล Outstanding Brand Performance จาก The Reader's Digest ถึง 8 ปี เอเซอร์ ยังได้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดโน้ตบุ๊คอันดับ 1 กว่า 13 ไตรมาสติดต่อกัน (ตั้งแต่ปี พ.ศ..2546 – ปัจจุบัน) รายละเอียดโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.acer.co.th
Acer และโลโก้ Acer เป็นเครื่องหมายการค้าของ Acer Incorporated เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน และ/หรือเครื่องหมายบริการอื่นๆ ที่ระบุหรือแสดงในลักษณะอื่นใด ถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น