วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น แนะนำอุปกรณ์สำรองข้อมูลระดับไฮเอนด์รุ่น Data Domain DD880


อุปกรณ์สำรองข้อมูลระดับไฮเอนด์รุ่น Data Domain DD880

 

บริษัท อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ เปิดตัว อุปกรณ์สำรองข้อมูล ระดับไฮเอนด์ รุ่น Data Domain DD880 ด้วยความสามารถเพิ่มความจุเป็นสองเท่า  มาพร้อมซอฟต์แวร์การเข้ารหัสข้อมูล ขจัดความซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภารในการรีพลิเคตข้อมูล เพื่อปกป้องข้อมูลสูญหายหรือถูกโจรกรรม

 

สำหรับ DD880 รุ่นนี้ สามารถ ขยายความจุรองรับการจัดเก็บข้อมูลสูงสุด 7.1 PB ซึ่งมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่นที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงกลางปี 2552 ช่วยให้ผู้ใช้ทำการแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติ (Disaster Recovery - DR) ได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการข้อมูล และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน  ผู้ดูแลระบบจะสามารถใช้พื้นที่ความจุเพิ่มเติมนี้เพื่อผนวกรวมงานแบ็คอัพข้อมูลพร้อมๆ กันได้มากถึง 180 งาน หรือขยายระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลเมื่อมีการรีพลิเคตข้อมูลจากสำนักงานสาขาต่างๆ ไม่เกิน 180 แห่ง  และการเพิ่มความจุนี้ยังช่วยลดการใช้พื้นที่ตั้งวางอุปกรณ์ รวมถึงกระแสไฟและระบบระบายความร้อนที่จำเป็นสำหรับการปกป้องชุดข้อมูลเป้าหมายในดาต้าเซ็นเตอร์หลักและไซต์ DR อีกด้วย

เจ.ที. หวาง ประธานเอเซอร์ ติด 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลก จากการจัดอันดับของนิตยสารไทม์

เจ.ที. หวาง ประธานเอเซอร์ ติด 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารไทม์

 

กรุงเทพฯ:  31 พฤษภาคม 2553: นายเจ.ที. หวาง ประธานบริษัทเอเซอร์ ได้รับเลือกให้ติดอันดับรายชื่อบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2553 ของนิตยสารไทม์ (TIME)  พร้อมกล่าวถึงการเกียรติที่ได้รับในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นเครื่องยืนยันว่าทั่วโลกให้การยอมรับต่อเอเซอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเขาได้กล่าวขอบคุณนิตยสารไทม์ รวมถึงคณะกรรมการตัดสิน และประชาชนทั่วไปที่ร่วมโหวตให้คะแนน ทั้งนี้ นายหวางครองอันดับ 2 ในกลุ่มผู้บริหาร

 

นายเจ.ที. หวาง กล่าวว่า ในขณะที่เอเซอร์กำลังปฏิรูปโครงสร้างองค์กรตามแผนที่ประกาศไว้เมื่อปี 2543 โดยการได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เอเซอร์ ตามดุลยพินิจของ นายสแตน ฉี อดีตประธานบริษัท เอเซอร์ ซึ่งนับเป็นการเปิดโอกาสครั้งสำคัญ เพื่อให้ตนได้แสดงความสามารถในการบริหารองค์กรในระดับสากล และรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากกับโอกาสที่ได้รับ โดยในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจาก นายจิอานฟรังโก้ แลนซี่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในคณะผู้บริหาร รวมถึงซัพพลายเออร์และตัวแทนจำหน่ายซึ่งให้การสนับสนุนแก่บริษัทอย่างเต็มที่เช่นกัน  ความร่วมมือของทุกๆ ฝ่ายช่วยให้เอเซอร์สามารถขยายกิจการให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่องจนกระทั่งได้รับการยอมรับจากนิตยสารไทม์

 

นายหวาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา คอมพิวเตอร์พีซีได้พัฒนาสู่ระบบเปิด และทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของไต้หวันสามารถสร้างระบบซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งความได้เปรียบนี้ช่วยให้ไต้หวันสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดและอิทธิพลได้อย่างกว้างขวาง ในขณะที่เอเซอร์ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เอเซอร์ "อยู่ถูกที่ ถูกเวลา" และกลายเป็นส่วนหนึ่งในพัฒนาการของอุตสาหกรรมพีซีระดับโลก ยิ่งไปกว่านั้นยังโชคดีอย่างมากที่ได้เป็นสักขีพยาน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลก

 

นายหวาง คาดหมายว่าอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของไต้หวันจะสดใส และเชื่อว่าตราบใดที่มีการตัดสินใจอย่างถูกต้องในช่วงเวลาสำคัญๆ ผู้บริหาร และบริษัทต่างๆ ของไต้หวันก็จะได้รับความเคารพ และการยอมรับเพิ่มมากขึ้นในเวทีโลกอย่างแน่นอน

 

สำหรับรายชื่อบุคคลผู้มีอิทธิพลสูงสุดในโลก 100 คน ของนิตยสารไทม์ หรือที่เรียกว่า TIME 100 จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 7 แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกย่องการดำเนินการอย่างจริงจัง การสร้างสรรค์นวัตกรรม และความสำเร็จของบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ซึ่งนายนิค สเตนเกล บรรณาธิการบริหารของไทม์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า "รายชื่อ TIME 100 ไม่ได้เป็นรายชื่อของบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก หากแต่เป็นรายชื่อของบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ใช้แนวคิด วิสัยทัศน์ และการดำเนินการ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเราและก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก"

 

ทั้งนี้ รายชื่อทั้งหมดและคำสดุดีที่เกี่ยวข้องนั้น มีอยู่ในนิตยสารไทม์ ฉบับวันที่ 10 พฤษภาคม 2553

 

ข้อมูลเกี่ยวกับเอเซอร์

นับแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.. 2519 เอเซอร์มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดระหว่างคนและเทคโนโลยี ด้วยการเอาใจใส่กับการทำตลาดผลิตภัณฑ์ไอทีภายใต้แบรนด์เอเซอร์ในทุกประเทศ  ปัจจุบันเอเซอร์เป็นผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์เป็นอันดับสองในระดับโลกทั้งในตลาดพีซีและโน้ตบุ๊ก ด้วยรูปแบบการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีผลกำไรและยั่งยืนเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเอเซอร์  ในขณะเดียวกันความสำเร็จของการควบรวมกิจการกับเกตเวย์และแพคการ์ด เบลล์ทำให้บริษัทสามารถเป็นบริษัทระดับโลก เอเซอร์มุ่งมั่นที่จะออกแบบและสร้างซัพพลายเชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่าย และเอเซอร์ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาว 2010 ที่แวนคูเวอร์ และการแข่งขันโอลิมปิค เกมส์ 2012 ณ กรุงลอนดอน เอเซอร์ กรุ๊ป มีพนักงาน 7,000 คนทั่วโลก และมีรายได้ในงบประมาณปี 2009 อยู่ที่ 17.9 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.acer-group.com

 

ผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ในปี .. 2527 โดยบริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี .. 2536 ปัจจุบันบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และได้รับรางวัล Outstanding Brand Performance จาก The Reader's Digest ถึง 8 ปี เอเซอร์ ยังได้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดโน้ตบุ๊คอันดับ 1  กว่า 13 ไตรมาสติดต่อกัน (ตั้งแต่ปี ...2546 ปัจจุบัน) รายละเอียดโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.acer.co.th

 

Acer และโลโก้ Acer เป็นเครื่องหมายการค้าของ Acer Incorporated เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน และ/หรือเครื่องหมายบริการอื่นๆ ที่ระบุหรือแสดงในลักษณะอื่นใด ถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

 











วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เอเซอร์ รับกระแส สตอเรจเดือด เปิดตัว AS2040 เพิ่มความคุ้มค่า เจาะตลาดขนาดกลาง

 

เอเซอร์ รับกระแส สตอเรจเดือด

เปิดตัว AS2040 เพิ่มความคุ้มค่า เจาะตลาดขนาดกลาง

บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นสตอเรจรุกตลาดกลุ่มองค์กรขนาดกลาง รับกระแสตลาดสตอเรจที่กำลังร้อนแรง ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ "AS" ชูจุดเด่นด้วยการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่คำนึงเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นเอเซอร์ - ฮิตาชิ AS2040 หนึ่งในหัวหอกการทำตลาด ที่สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจด้วยความจุสูงสุดถึง 120 เทราไบต์ สนับสนุนการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้ถึง 512 เครื่อง ผ่านระบบพอร์ตเสมือน ผนวกจุดเด่นด้านประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นเหนือระดับ ให้ความน่าเชื่อถือในด้านการเข้าถึงและคงอยู่ของข้อมูลถึง 99.999 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่มีผลิตภัณฑ์ในระดับเดียวกันสามารถทำได้ ในราคาเริ่มต้นสุดพิเศษในช่วงเปิดตัวเพียง 350,000 บาท (ไม่รวม Vat 7%) โดยสามารถเลือกการเชื่อมต่อได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการไม่ว่าจะเป็น FC หรือ iSCSI สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอเซอร์ทั่วประเทศ หรือที่เอเซอร์ คอลล์ เซ็นเตอร์ ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2685 4311 หรือคลิกไปที่ www.acer.co.th

 


 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  :                                                                                      ข่าวประชาสัมพันธ์โดย:

คุณภัทรา กิจดำรงวินิจกุล                                                                          บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด

Media & Strategic Marketing                                                                                            จิตาตินันท์ สิงห์คศิริ

Marketing Division                                                                                                          ดุษฎี เย็นสุดใจ

บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด                                                       โทรศัพท์: 02-971-3711 โทรสาร: 02-521-9030

โทรศัพท์ :  02-661-9700 โทรสาร:  02-661-9721                                  อีเมล์: jitatinun@pc-a.co.th / dudsadee@pc-a.co.th

อีเมล์ : pattra_k@acer.co.th

Oracle? Database 11g สร้างสถิติโลกผลการทดสอบประสิทธิภาพ



Oracle, The World's Largest Enterprise Software Company Press Release

 
Oracle® Database 11g สร้างสถิติโลกผลการทดสอบประสิทธิภาพ TPC-H Three Terabyte บนเซิร์ฟเวอร์ Sun SPARC Enterprise M9000 ออราเคิลโชว์ประสิทธิภาพที่โดดเด่นของระบบคลังข้อมูลด้วยระดับราคา/ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
 
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 27 พฤษภาคม 2553
ข้อเท็จจริง

·        ออราเคิลเปิดเผยผลการทดสอบประสิทธิภาพ TPC-H Three Terabyte (TB) ที่เป็นสถิติโลกบนระบบที่ไม่ใช่ระบบคลัสเตอร์ สำหรับ Oracle® Database 11g ที่รันบนเซิร์ฟเวอร์ Sun SPARC® Enterprise M9000 ของออราเคิล(1) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการปรับขนาดที่เหนือกว่า รวมถึงการผนวกรวมฐานข้อมูล Oracle Database เข้ากับเซิร์ฟเวอร์ Sun SPARC ของออราเคิล

·        ผลการทดสอบนี้นับเป็นการสร้างสถิติใหม่ที่เหนือกว่าผลการทดสอบ TPC-H 3 TB ของไอบีเอ็ม(2) ด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ พร้อมระดับราคา/ประสิทธิภาพที่ดีกว่า

·        เซิร์ฟเวอร์ Sun SPARC Enterprise M9000 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Sun SPARC Enterprise Server Family เป็นเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กรแบบมัลติโปรเซสเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

·        Oracle Solaris เป็นระบบปฏิบัติการชั้นนำระดับองค์กร ให้เสถียรภาพและความปลอดภัยสูงสุด รองรับการปรับขนาดอย่างยืดหยุ่น

 
รายละเอียดผลการทดสอบประสิทธิภาพ

·        Oracle Database 11g ที่รันบนระบบปฏิบัติการ Oracle Solaris ซึ่งติดตั้งไว้บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Sun SPARC Enterprise M9000 ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์แบบ 4 คอร์ SPARC64(TM) VII+ 2.8 GHz จำนวน 32 ตัว รวมทั้งหมด 128 คอร์ ทำลายสถิติโลกสำหรับผลการทดสอบประสิทธิภาพ TPC-H 3 TB บนระบบที่ไม่ใช่ระบบคลัสเตอร์ โดยประมวลผลได้สูงถึง 188,229.9 QphH@3000GB ด้วยระดับราคา 20.19 ดอลลาร์/QphH@3000GB

·        TPC-H เป็นการทดสอบประสิทธิภาพด้านการสนับสนุนการตัดสินใจ โดยประกอบด้วยชุดคิวรี่ (Query) ที่มุ่งเน้นธุรกิจและการแก้ไขข้อมูลพร้อมๆ กัน  ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพนี้เรียกว่า TPC-H Composite Query-per-Hour Performance Metric (QphH@Size) โดยสะท้อนหลากหลายแง่มุมของความสามารถของระบบในการประมวลผลคิวรี่  ข้อมูลเพิ่มเติมมีอยู่ที่ http://www.tpc.org

 
คำกล่าวสนับสนุน

·        "Oracle Database 11g แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านระบบคลังข้อมูล (Data Warehousing) ด้วยการนำเสนอผลการทดสอบประสิทธิภาพ TPC-H ที่ทำลายสถิติสำหรับปัจจัยขนาดใหญ่ทั้งหมด" ฮวน โลเอซา รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีระบบของออราเคิล กล่าว "ผลการทดสอบประสิทธิภาพนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้งาน Oracle Database 11g ร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ Sun SPARC Enterprise M9000 ของออราเคิล จะช่วยให้ลูกค้ามีแพลตฟอร์มประสิทธิภาพสูงที่แข็งแกร่งสำหรับแอพพลิเคชั่นคลังข้อมูล"

 
ทรัพยากรสนับสนุน
·         Oracle Database 11g
·        กลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร Sun SPARC ของออราเคิล
·        Oracle Solaris
·        ผลการทดสอบประสิทธิภาพของออราเคิล
·         ดาวน์โหลด Oracle Database 11g ฟรี  เป็นไปตามข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อจำกัด
 

เกี่ยวกับออราเคิล

ออราเคิล (NASDAQ: ORCL) เป็นบริษัทที่นำเสนอระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ทางด้านธุรกิจแบบครบวงจรบนมาตรฐานเปิดที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดในโลก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับออราเคิลมีอยู่ที่ oracle.com

 

เครื่องหมายการค้า

ออราเคิลและจาวาเป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของออราเคิลและ/หรือบริษัทในเครือ ชื่ออื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของผู้เป็นเจ้าของ

'อีเอ็มซี'เผยโฉมระบบขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน


 

'อีเอ็มซี'เผยโฉมระบบขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน

ด้วยระบบมัลติคอนโทรลเลอร์ ยกระดับประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลแบ็คอัพภายในองค์กร สามารถเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลแบ็คอัพได้ถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนของค่ายอื่น

 

 กรุงเพทฯ– 27 พฤษภาคม 2553 อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ เปิดตัว EMC® Data Domain® Global Deduplication Array (GDA) ซึ่งเป็นระบบสตอเรจที่มีการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนแบบอินไลน์ (Inline Deduplication) และทำงานได้รวดเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับการแบ็คอัพข้อมูลภายในองค์กร

 

Global Deduplication Array รุ่นนี้ใช้ส่วนขยายมัลติคอนโทรลเลอร์ของสถาปัตยกรรมโดเมนข้อมูล (Data Domain) โดยรองรับการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนแบบอินไลน์และการกำหนดเนมสเปซ (Namespace) สำหรับข้อมูลทั้งหมดที่เก็บไว้ในระบบดูอัลคอนโทรลเลอร์  ด้วยอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด 12.8 เทราไบต์ต่อชั่วโมง (TB/ชั่วโมง) จึงมีประสิทธิภาพการทำงานสูงในหลายๆด้าน เมื่อทดสอบระบบตามดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพในการแบ็คอัพข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์  Global Deduplication Array รองรับการแบ็คอัพข้อมูลโลจิคอลสูงสุด 14.2 เพทาไบต์ (PB) ทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการผนวกรวมข้อมูลแบ็คอัพสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ โดยครอบคลุมเวิร์กโหลดที่หลากหลาย เช่น ฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาก, อิมเมจของ VMware® และข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง

 

สำหรับ Global Deduplication Array แบบอินไลน์แตกต่างจากระบบขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนแบบมัลติคอนโทรลเลอร์ส่วนใหญ่ โดยจะทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนกับซอฟต์แวร์แบ็คอัพข้อมูล จึงให้สมรรถนะที่เหนือกว่าในการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน การกระจายภาระงานแบบไดนามิก และการใช้งานที่สะดวกง่ายดาย  Global Deduplication Array ทำหน้าที่กระจายส่วนต่างๆ ของกระบวนการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนไปยังแบ็คอัพเซิร์ฟเวอร์ เพื่อลดภาระงานของเครือข่ายและเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลของคอนโทรลเลอร์ GDA โดยอัตราการรับส่งข้อมูลแบ็คอัพต่อคอนโทรลเลอร์รวดเร็วกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนของบริษัทอื่นๆ

 

ทั้งยังเป็นระบบขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนแบบอินไลน์ที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุดในตลาดอีกด้วย  การประมวลผลการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนแบบกระจัดกระจายนี้ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Intel® Xeon® แบบมัลติคอร์ในคอนโทรลเลอร์ GDA และสถาปัตยกรรมการปรับขนาด Data Domain SISL™ (Stream-Informed Segment Layout) ซึ่งจะลดจำนวนการเข้าถึงดิสก์ที่จำเป็นในกระบวนการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน  ในระยะแรก แพลตฟอร์มนี้จะรองรับ Symantec NetBackup และ Backup Exec ผ่านทางซอฟต์แวร์ปลั๊กอิน

 

Global Deduplication Array นำเสนอระบบสตอเรจที่มีการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนเพื่อรองรับการแบ็คอัพข้อมูลบนคอนโทรลเลอร์ EMC Data Domain DD880 สองเครื่อง โดยจะมีการแบ่งภาระงานแบ็คอัพในดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่อย่างโปร่งใสในลักษณะไดนามิกสำหรับคอนโทรลเลอร์ทั้งสอง จึงช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการพื้นที่ความจุ การจัดการประสิทธิภาพ และการบริหารระบบแบ็คอัพ

·     สำหรับสภาพแวดล้อมแบ็คอัพที่จะต้องประมวลผลข้อมูลหลายร้อยเทราไบต์ ผู้ดูแลระบบจะสามารถกำหนดนโยบายการแบ็คอัพข้อมูลให้แก่ Global Deduplication Array และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มสตอเรจ Deduplication ส่วนกลางเพื่อรองรับข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับการปกป้องตามนโยบายเหล่านั้น

·     Global Deduplication Array รองรับงานแบ็คอัพพร้อมๆ กัน 270 งาน ด้วยอัตราการรับส่งข้อมูลสูงสุด 12.8 TB/ชั่วโมง ช่วยให้แบ็คอัพข้อมูลได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น

·     Global Namespace ลดความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนนโยบายการแบ็คอัพข้อมูลที่ซับซ้อน ในขณะที่เทคโนโลยี Global Deduplication แบ่งภาระงานตามนโยบายในลักษณะไดนามิกเพื่อรองรับการจัดการประสิทธิภาพและพื้นที่ความจุอย่างเหมาะสม  ด้วยเหตุนี้จึงสามารถปกป้องชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากได้อย่างง่ายดาย โดยเพิ่มความสะดวกในการบริหารจัดการ พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมในการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน และดังนั้นจึงช่วยลดพื้นที่ตั้งวางอุปกรณ์สตอเรจได้อีกทางหนึ่ง

นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากผลการวิจัย เราพบว่าการหาหนทางที่จะแบ็คอัพข้อมูลภายในกรอบเวลาที่กำหนดในขณะที่ข้อมูลมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงเป็นปัญหาท้าทายที่สำคัญที่สุดสำหรับการปกป้องข้อมูลภายในองค์กร  อีเอ็มซีนำเสนอ Data Domain Global Deduplication Array ซึ่งรองรับการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนแบบอินไลน์ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าระบบ Data Domain รุ่นก่อนหน้า แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ อีเอ็มซีช่วยให้ลูกค้าสามารถปกป้องข้อมูลจำนวนมากขึ้น แต่ใช้เวลาน้อยลง เราคาดการณ์ว่าบริษัทต่างๆ จะประเมินการผสานรวมระหว่างแบ็คอัพซอฟต์แวร์และสตอเรจ Deduplication เพื่อเพิ่มระดับประสิทธิภาพ ลดปริมาณข้อมูลแบ็คอัพ และผนวกรวมงานบริหารจัดการเข้าไว้ด้วยกัน

 

"Data Domain Global Deduplication Array ของอีเอ็มซีเป็นระบบที่ก้าวล้ำอย่างมาก โดยประกอบสร้างขึ้นจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม Data Domain ที่มีอยู่ และยังคงรักษาลักษณะที่เรียบง่ายของอุปกรณ์  การขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนหรือ Deduplication ทำงานในลักษณะอินไลน์ จึงมีความรวดเร็วอย่างมาก อีกทั้งระบบยังมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการผนวกรวมข้อมูลแบ็คอัพภายในดาต้าเซ็นเตอร์ แต่โหลดบาลานซิ่งแบบไดนามิก สตอเรจพูลเดียวกันสำหรับการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน รวมถึงเนมสเปซ และการผสานรวมอย่างกลมกลืนกับแบ็คอัพซอฟต์แวร์ ทำให้ Global Deduplication Array ใช้งานได้ง่ายกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่ง  นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่อีเอ็มซียกระดับมาตรฐานใหม่สำหรับการปกป้องข้อมูลบนดิสก์"  นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวย้ำ

ความสามารถที่เหนือกว่าในการรีพลิเคตข้อมูล

·     ด้วยซอฟต์แวร์ EMC Data Domain Replicator ทำให้ Global Deduplication Array สามารถจัดสรรการใช้เครือข่าย Wide Area Network (WAN) สำหรับการกู้คืนระบบ (DR), การแบ็คอัพข้อมูลจากสำนักงานสาขา หรือการผนวกรวมเทปบันทึกข้อมูลจากหลายๆ ไซต์โดยอัตโนมัติ

 

·     Global Deduplication Array หนึ่งเครื่องสามารถรองรับการรีพลิเคตข้อมูลจากสำนักงานสาขาได้สูงสุด 270 แห่ง โดยใช้ระบบสตอเรจขนาดเล็กที่มีการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน เช่น อุปกรณ์ Data Domain DD140 หรือ DD600 Series

·     การขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนภายในไซต์จะช่วยลดการใช้แบนด์วิธ เพราะมีเพียงอินสแตนซ์แรกสุดของข้อมูลเท่านั้นที่ถูกถ่ายโอนผ่านเครือข่าย WAN ระหว่างไซต์ต่างๆ  นอกจากนั้น เพื่อการปกป้องข้อมูลนอกไซต์ที่รวดเร็วและการผนวกรวมเทปบันทึกข้อมูล Global Deduplication Array จะรองรับการรีพลิเคตข้อมูลที่อัตราความเร็ว 54 TB/ชั่วโมง

 

เช่นเดียวกับระบบ Data Domain ทั้งหมด Global Deduplication Array รุ่นใหม่นี้ติดตั้งได้ง่าย และมีความยืดหยุ่นเพียงพอสำหรับการปรับใช้กับสภาพแวดล้อมที่ผู้ใช้มีอยู่โดยปราศจากการหยุดชะงัก และด้วยบริการระดับองค์กรทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง (24x7x365) จากอีเอ็มซี อุปกรณ์ดังกล่าวจึงผนวกรวมเข้ากับสภาพแวดล้อม Symantec™ NetBackup และ Backup Exec สำหรับการแบ็คอัพข้อมูลได้อย่างกลมกลืน โดยใช้ซอฟต์แวร์ EMC Data Domain OpenStorage

เหตุใดสถาปัตยกรรมจึงมีความสำคัญ

Global Deduplication Array ใช้ซีพียูในการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนแบบอินไลน์เช่นเดียวกับระบบ Data Domain ทั้งหมดของอีเอ็มซี โดยแตกต่างจากแนวทางการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนส่วนใหญ่ที่ถูกเพิ่มเติมเข้าไปในภายหลังสำหรับดิสก์อาเรย์, เวอร์ช่วลเทปไลบรารี (VTL) หรือแบ็คอัพซอฟต์แวร์ ระบบ Data Domain มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

·     สถาปัตยกรรมการปรับขนาด SISL ใช้ประโยชน์จากการปรับปรุงซีพียูเพื่อเพิ่มความเร็วในการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน พร้อมทั้งลดการพึ่งพาการประเมินดิสก์สำหรับประสิทธิภาพการทำงาน  ระบบ Data Domain มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเกือบ 90 เท่าสำหรับการรับส่งข้อมูล และเพิ่มความจุกว่า 225 เท่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา และด้วยแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้ซีพียูของอินเทล คาดว่าอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต

·     การขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนแบบอินไลน์ที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดการใช้ทรัพยากรระบบ การบริหารจัดการ และการจัดการกระบวนการระบบภายใน

·         ประสิทธิภาพของสตอเรจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับระบบที่มีขนาดเล็กกว่าและใช้พลังงานน้อยกว่า

·     สถาปัตยกรรม Data Domain Data Invulnerability Architecture ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล ด้วยการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องระหว่างการจัดเก็บและกู้คืนข้อมูล

 

การวางจำหน่ายและบริการทั่วโลก

 

EMC Data Domain Global Duplication Array จะวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2553  หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบสตอเรจ Data Domain โปรดเยี่ยมชม visit www.datadomain.com  นอกจากนี้ ลูกค้าที่ใช้ EMC Data Domain Global Deduplication Array รุ่นใหม่จะสามารถทำงานร่วมกับฝ่ายบริการของอีเอ็มซี (EMC Global Services) เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการปรับใช้เทคโนโลยีการแบ็คอัพข้อมูลและการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน พร้อมทั้งเพิ่มคุณประโยชน์ของฟีเจอร์ต่างๆ ด้วยการใช้บริการแบบครบวงจรจากอีเอ็มซี ทั้งในส่วนของการให้คำปรึกษา การปรับใช้ การติดตั้ง และการฝึกอบรม

 

ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี

 

อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและจัดหาโซลูชั่นและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งช่วยให้องค์กรทุกขนาดปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าจากข้อมูลที่มีอยู่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของอีเอ็มซี คลิกไปที่ www.thailand.emc.com

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ซิสโก้ แอสเซส พอท์ย แอโรเน็ต 3500 ซีรี่ร์ ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ล่าสุด CleanAir Technology

 

ซิสโก้ แอสเซส พอท์ย แอโรเน็ต 3500 ซีรี่ร์

ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ล่าสุด CleanAir Technology

 

                    บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบเครือข่ายระดับโลก ขอแนะนำ แอสเซส พอท์ย แอโรเน็ต 3500 ซีรี่ร์ (Cisco Aironet 3500 Series Access Points) ที่ใช้ CleanAir Technology ซึ่งได้รับการออกแบบมาบน Hardware chip set ที่มี spectrum intelligence จึงรู้จักและแยกแยะสัญญานที่ใช้ในความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz ช่วยให้ระบบ wireless สามารถตรวจจับและทำการแก้ไขโดยการปรับเปลื่ยนความถี่เพื่อหลบเลื่ยงสัญญาณรบกวนโดยอัตโนมัต และเมื่อใช้งานร่วมกันกับระบบระบุตำแหน่ง สามารถทำการระบุสถานที่ที่สัญญานรบกวนตั้งอยู่ได้ด้วย ทำให้ผู้ดูแลสามารถที่จะทำการเคลื่อนย้ายแหล่งสัญญานรบกวนได้ ความสามารถนี้ไม่มีในระบบ Wireless LAN ที่ใช้ access point แบบธรรมดา และ CleanAir Technology เป็นนวัตกรรมล่าสุดทางด้าน Wireless จากซิสโก้ที่ช่วยให้การใช้งานระบบสื่อสารไร้สายในองค์กรมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เอเซอร์ ฮอตได้อีก ส่ง Acer liquid S100 สมาร์ทโฟนดีไซน์เฉี่ยว สุดล้ำ กับ Android OS

เอเซอร์ ฮอตได้อีก ส่ง Acer liquid S100

สมาร์ทโฟนดีไซน์เฉี่ยว สุดล้ำ กับ Android OS

 

เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ เปิดตัว Acer Liquid S100 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวเน้นการออกแบบอย่างมีสไตล์ เพื่อกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบซ้ำแบบใครที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ออนไลน์แต่ไม่พลาดการติดต่อสื่อสาร กับเทคโนโลยีล่าสดด้วยซีพียู Qualcomm 8250 ความเร็ว 768 MHz พร้อมหน้าจอ LED ระบบสัมผัสแบบ Capacitive Touch ที่แม่นยำ หน้าจอกว้างถึง 3.5" ความละเอียด 800x480 pixels คมชัดกับกล้อง 5 ล้านพิกเซล น้ำหนักเพียง 135 กรัม ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เข้าถึงอย่างรวดเร็วและตอบโจทย์ชีวิตออนไลน์ ให้คุณสนุกกับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นและเกมส์มันๆแบบเต็มอิ่มกว่า 30,000 รายการ ด้วย Android marketplace เชื่อมโยงโซเชียลเน็ตเวิร์ก ด้วยอินเทอร์เน็ต Wi-Fi และ 3G  สามารถอัพเดท facebook Youtube ฟังเพลงผ่าน Spinlets พร้อมแผนที่ Google Maps ทั้ง GPS กับ A-GPS และ เช็คอีเมล์ผ่าน Gmail, Hotmail, Yahoo! ได้รวดเร็วทันใจ มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ แดง, ดำ และขาว โดยสนนราคาอยู่ที่ 16,900 บาท (ราคารวม Vat แล้ว) สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอเซอร์ คอลล์ เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 0 2685 4311 หรือคลิกไปที่ www.acer.co.th